Investor and Shareholder Privacy Notice
นโยบายความเป็นส่วนตัวกรรมการและผู้บริหาร
บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จํากัด (มหาชน) (“บริษัท”) ให้ความเชื่อมั่นแก่กรรมการ ซึ่ง หมายความรวมถึงกรรมการของบริษัท (กรรมการในทุกลักษณะดังกล่าวเรียกรวมกันภายใต้นโยบายฉบับนี้ว่า “กรรมการ”) และผู้บริหารตามนิยามของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“ผู้บริหาร”) ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของกรรมการและผู้บริหารทุกท่านเป็นข้อมูลที่ทางบริษัทให้ความสำคัญ โดยบริษัทรับประกันที่จะปกป้องและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ บริษัทมีจุดประสงค์แจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะกรรมการและผู้บริหารทราบเกี่ยวกับความจำเป็นในการเก็บ ประมวลผล ใช้ รวมถึงเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบริษัทต่อท่านในฐานะกรรมการและผู้บริหารตามกฎหมาย อันได้แก่ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น และภายใต้สัญญาการแต่งตั้งกรรมการและผู้บริหารที่บริษัทมีกับท่าน หากท่านไม่ตกลงให้ทางบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและผู้บริหารตามเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าบริษัทย่อมไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทต่อกรรมการและผู้บริหารได้
ทางบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายหรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องหรือขอบเขตการว่าจ้างหรือแต่งตั้งมอบอำนาจในการทำงานของกรรมการและผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้กรรมการและผู้บริหารทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ให้กรรมการและผู้บริหารทราบผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการและผู้บริหารที่ทําให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่ทางบริษัทอาจได้รับข้อมูลดังกล่าวโดยตรงจากการที่ท่านแจ้งข้อมูลให้แก่บริษัท ใบแบบฟอร์มการตรวจสอบคุณสมบัติหรือทะเบียนกรรมการและผู้บริหารเข้าใหม่ หรือจากการที่บริษัทอาจตรวจสอบข้อมูลของท่านจากฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการ หรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการและผู้บริหาร
ทั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
-
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกรรมการ หรือผู้บริหาร กล่าวคือ ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ปัจจุบัน ข้อมูลบัญชีธนาคาร จำนวนหุ้น เลขประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง และข้อมูลการติดต่อ (เช่น เบอร์โทรศัพท์ และ/หรืออีเมล)
-
ข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมของกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่บริษัทอาจจำเป็นต้องจัดทำตามแบบฟอร์มที่หน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานอื่น ๆ อาจประกาศกำหนด ซึ่งได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ประวัติย่อของกรรมการและผู้บริหารแต่ละท่าน (ได้แก่ ประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน การเป็นกรรมการหรือมีตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่น ๆ การอบรม สถานภาพการสมรส คู่สมรส บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เป็นต้น) และรูปถ่ายของกรรมการและผู้บริหาร รวมถึงผลการตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามของกรรมการและ/หรือผู้บริหารซึ่งอาจเป็นไปตามแบบฟอร์มที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอาจกำหนด
-
ข้อมูลการเข้าร่วมประชุมที่กรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวเข้าร่วม ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งการบันทึกภาพและเสียงระหว่างการเข้าร่วมประชุมทั้งในรูปแบบการประชุมแบบออนไลน์และออฟไลน์
-
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกรรมการหรือผู้บริหารที่ท่านอาจให้แก่บริษัทระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่กรรมการหรือผู้บริหารแต่ละท่านอาจยินยอมและนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะอื่นๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลลายมือชื่อและสำเนาเอกสารแสดงตน ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง ซึ่งบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องแนบท้ายไปพร้อมกับเอกสารธุรกรรมต่างๆ ที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารดังกล่าวอาจดำเนินการในนามและแทนบริษัท เป็นต้น
นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการหรือผู้บริหารโดยตรงแล้ว ในกรณีที่กรรมการหรือผู้บริหารเป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการหรือผู้บริหาร เช่น คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อกรรมการหรือผู้บริหารให้ข้อมูลดังกล่าวแก่บริษัท บริษัทจะถือว่า กรรมการหรือผู้บริหารให้การรับประกันว่า กรรมการหรือผู้บริหารมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวครบถ้วนและถูกต้องแล้ว ดังนั้น บริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวทั้งหมดได้โดยสมบูรณ์
จุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการหรือผู้บริหารเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงจุดประสงค์ดังต่อไปนี้
-
ในการดำเนินกระบวนการสรรหากรรมการหรือผู้บริหาร บริษัทย่อมมีความจำเป็นในการตรวจสอบยืนยันข้อมูลคุณสมบัติของกรรมการหรือผู้บริหาร โดยการตรวจสอบและสอบทานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
-
เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท เช่น การบริหารจัดการบริษัท (เช่น การปรับโครงสร้างกิจการ การเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน) การส่งหนังสือเชิญประชุมหรือหนังสือบอกกล่าวอื่นๆ ภายใต้กฎหมายให้กรรมการรับทราบ เช่น หนังสือเชิญประชุม หรือการส่งบทรายงานการประกอบธุรกิจของบริษัทให้แก่กรรมการตามสิทธิที่ระบุไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การจัดทำบัญชีและรายงาน การตรวจสอบเอกสารตามกฎหมาย รวมถึงหน้าที่ตามกฎหมายต่างๆ ของการเป็นบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
-
เพื่อการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทต่อกรรมการหรือผู้บริหารภายใต้สัญญาที่อาจมีระหว่างกัน ในการควบคุมดูแล บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างกรรมการหรือผู้บริหารกับบริษัท ตลอดระยะเวลาการเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการติดต่อสื่อสารประสานงานระหว่างบริษัทและกรรมการหรือผู้บริหารที่อยู่ในตำแหน่งงาน การใช้ข้อมูลใดๆ ของกรรมการหรือผู้บริหาร เพื่อการดำเนินงานซึ่งกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวอาจต้องดำเนินการในฐานะตัวแทนของบริษัท (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการหรือผู้บริหารเพื่อเป็นเอกสารและข้อมูลที่ต้องใช้ในการติดต่อสื่อสาร และทำธุรกรรมทั้งหมดที่กรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวทำในนามและแทนบริษัทกับคู่ค้า หรือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด) การคิดคำนวณและการจ่ายค่าตอบแทน เช่น ค่าเบี้ยประชุมให้แก่กรรมการตามข้อตกลงและกฎระเบียบ เป็นต้น
-
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของกรรมการและผู้บริหาร โดยเป็นการดำเนินการเพื่อรับประกันความโปร่งใสและธรรมาภิบาลของบริษัท โดยเฉพะเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทในฐานะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งต้องรักษาธรรมาภิบาลของบริษัท รวมถึงดำเนินการให้สอคดล้องกับ ข้อแนะนำหรือแนวปฏิบัติที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอาจประกาศกำหนด และเพื่อการปฏิบัติตามข้อแนะนำและแนวปฏิบัติดังกล่าว บริษัทย่อมมีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารเพิ่มเติม โดยเฉพาะ ในการจัดทำรายงานประจำปีของบริษัท หรือการจัดทำเอกสารเผยแพร่อื่นๆ ผ่านช่องทางต่างๆของบริษัท โดยเฉพาะผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ และเว็บไซต์ของบริษัท หรือการดำเนินการประมวลผลข้อมูลเพื่อประโยชน์อื่นๆของกรรมการและผู้บริหาร เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การดำเนินกิจกรรมและอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่กรรมการและผู้บริหารในการใช้สิทธิหรือการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ การบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายในองค์กร การกำกับการตรวจสอบ ตลอดจนการตรวจสอบภายในรวมถึงการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และการใช้สิทธิในการปกป้องต่อสู้ข้อต่อสู้ใดๆที่อาจมีระหว่างบริษัท และกรรมการหรือ ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
ระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการหรือผู้บริหารแต่ละท่าน เพื่อจุดประสงค์ดังที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น กล่าวคือ (i) ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่ท่านยังมีฐานะเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทและ/หรือตลอดระยะเวลาสัญญาที่บริษัทอาจยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้แก่กรรมการหรือผู้บริหารท่าน หรือ (ii) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายใดๆ ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ระยะเวลาการจัดทำเอกสารบัญชี
นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิและการปกป้องสิทธิของบริษัทและท่านภายใต้สถานะบริษัทและกรรมการหรือผู้บริหาร บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการหรือผู้บริหารเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพิ่มเติมตามกรอบอายุความที่เหมาะสมหลังจากที่กรรมการหรือผู้บริหารสิ้นสุดสภาพการเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้ ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
โดยหลัก ข้อมูลส่วนบุคคลที่กรรมการหรือผู้บริหารให้แก่ บริษัทจะได้รับการเก็บเป็นความลับ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการหรือผู้บริหารนั้นอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการเปิดเผยให้แก่บุคคลในกลุ่ม ดังต่อไปนี้
-
ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนบริษัทในการดำเนินธุรกิจและการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทที่มีต่อกรรมการ รวมถึงการปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาบัญชี ผู้ให้บริการจัดทำรายงานการประกอบธุรกิจของบริษัท และที่ปรึกษาในด้านอื่นๆ รวมถึงหน่วยงานตรวจสอบภายในและภายนอก เป็นต้น โดยบริษัทจะดำเนินการเปิดเผยข้อมูลบนพื้นฐานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
-
ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งคำแนะนำของหน่วยงานกำกับดูแลของบริษัท เช่น กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรืออยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษา หรือคำสั่งของหน่วยงานราชการ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่หน่วยงานดังกล่าวเพื่อเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่บริษัทมีตามกฎหมาย ซึ่งอาจรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารผ่านช่องทางเว็บไซต์หรือสื่อสาธารณะอื่นของบริษัท ซึ่งจะเปิดให้บุคคลใดๆ ที่สนใจอาจเข้าถึงได้
-
ในบางกรณีเพื่อการประกอบสัญญาหรือการติดต่อประสานงานกับคู่สัญญาของบริษัท บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยบทรายงานประจำปีของบริษัท ซึ่งอาจรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท และอาจจำเป็นต้องเปิดเผยส่งต่อข้อมูลของกรรมการหรือผู้บริหาร (รวมถึงสำเนาเอกสารแสดงตนของกรรมการหรือผู้บริหาร) ให้แก่คู่สัญญาดังกล่าว โดยบริษัทจะดำเนินการภายใต้หลักการประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นโดยไม่กระทบสิทธิของกรรมการหรือผู้บริหารในฐานะเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร และ
-
หน่วยงานอื่นที่กรรมการหรือผู้บริหารแต่ละท่านเคยได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้เราสามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้
คำรับประกันการดำเนินมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่เหมาะสม
บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการหรือผู้บริหารโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสมโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สิทธิของเจ้าของข้อมูล
บริษัทรับทราบและเคารพสิทธิตามกฎหมายของท่านในฐานะกรรมการหรือผู้บริหารในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัทได้ตามเงื่อนไขกำหนดสิทธิที่ระบุไว้ในกฎหมาย ดังนี้
-
สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
-
สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
-
สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
-
สิทธิขอให้ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
-
สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
-
สิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้
กรรมการหรือผู้บริหารแต่ละท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทเพื่อดำเนินการขอใช้สิทธิข้างต้นได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของกรรมการหรือผู้บริหารให้ทราบภายในกรอบระยะเวลาที่เหมาะสมภายใต้กรอบกฎหมาย
โดยส่งอีเมลมาที่ DPO@jubileediamond.co.th หรือติดต่อสำนักงานใหญ่ บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 179 อาคารบางกอกซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น 10 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
นอกจากนี้ คุณสามารถติดต่อบริษัทได้ทาง Call Center โทร. 02-625-1111 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น.